ตื่นรู้หรือตื่นข่าว

            ตื่นรู้หรือตื่นข่าว

นับแต่เริ่มปีใหม่มาได้ไม่นาน นอกจากกระแสการเมืองเรื่องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะไหลเชี่ยวกรากแล้ว    กระแสสังคมว่าด้วยเรื่องความเชื่อที่พึ่งทางใจแบบใหม่ๆ แห่งยุคสมัยก็ร้อนแรงเชี่ยวกรากไม่แพ้กัน

ทุกวันนี้ ถ้าเอ่ยชื่อถึงลูกเทพ หากใครไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่เคยได้ยินนับว่าตกข่าวและตกเทรนด์จากยุคสมัยใหม่ไปทีเดียว    เพราะข่าวความเคลื่อนไหวของกระแสลูกเทพถูกสื่อจากสื่อทุกประเภทที่มีอยู่บนผืนแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์ทุกประเภทก็จับข่าวนี้อย่างฉับไว เจาะลึกทุกความเคลื่อนไหวในทุกมิติ

ปรากฏการณ์ลูกเทพเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงทั้งธุรกิจ ไสยศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การจัดการ โฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่ออกมาในรูปแบบต่างๆ อย่างเป็นกระบวนการ

ผู้ประกอบการด้านธุรกิจหลายหน่วยได้รับผลประโยชน์จากกระแสลูกเทพนี้ เริ่มตั้งแต่โรงงานผลิตตุ๊กตาตัวขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขาดใหญ่ได้รับออเดอร์มากขึ้นอย่างพรวดพราด  ตัวแทนจำหน่าย ร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ที่จำหน่ายตุ๊กตาแบบสินค้าปกติโดยทั่วไปก่อนหน้านี้ ก็สามารถจำหน่ายตุ๊กตาในราคาสูงขึ้นหลายเท่าตัว

รายงานข่าวจากแหล่งต่างๆ ได้กล่าวถึงข่าวการก้าวกระโดดของราคาตุ๊กตาเอาไว้ว่า จากเดิมราคาเรือนพันก็ไต่ระดับขึ้นไปถึงหมื่นและแสนบาทตามลำดับ    นับได้ว่าเป็นสินค้าที่ขึ้นราคาไปหลายหมื่นเท่าตัวสวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศและเศรษฐกิจโลกที่กำลังเดินเข้าสู่จุดถดถอยสุดขีด

หากพิจารณาจากราคา พอที่จะมองได้ว่า คนที่จะซื้อสินค้าชิ้นนี้ได้ต้องอยู่ในกลุ่มที่มีเงินทองจับจ่ายใช้สอยอย่างมากมายเหลือเฟือจริงๆ คือเหลือเฟือขนาดที่กล้าจ่ายเงินเป็นหมื่นเป็นแสนซื้อสินค้าที่ไม่ต้องคำนึงว่า ราคาจะมีเหตุผลหรือคุ้มค่าหรือไม่

นอกจากโรงงาน ร้านค้าปลีกร้านค้าย่อยจะทำรายได้กันทั่วหน้าแล้ว ธุรกิจอื่นๆ ก็ขานรับกระแสนี้ไม่น้อย เช่น ห้างร้าน ภัตตาคารหรู สายการบิน รถโดยสารปรับอากาศ เตรียมการรับธุรกิจแบบใหม่นี้อย่างคึกคัก

เช่น ภัตตาคาร เวลาเจ้าของไปรับประทานอาหาร แต่เดิมถ้ามนุษย์ที่เป็นเจ้าของไปคนเดียวก็สั่งอาหารชุดเดียวในปริมาณหนึ่ง ในราคาหนึ่ง แต่พอเจ้าของลูกเทพอุ้มลูกเทพไปด้วย เวลาสั่งอาหารก็ต้องสั่งเผื่อลูกเทพด้วย ภัตตาคารไหน ขัดใจเจ้าของลูกเทพก็ขาดรายได้ไป ภัตตาคารไหนไม่ขัดใจคล้อยตามความต้องการของเจ้าของต้อนรับลูกเทพเสมือนลูกสาวหรือลูกชายของลูกค้า ก็รับเงินเพิ่มหรืออาจจะได้ทิปจากลูกเทพอีกจำนวนหนึ่งก็อาจจะเป็นได้

รถเมล์และเครื่องบินที่เตรียมการต้อนรับธุรกิจนี้ ก็เพราะเห็นรายได้เพิ่มขึ้นทันทีไม่ต่ำกว่า ห้าสิบหรือร้อยเปอร์เซ็นต์

แม้ผู้กำกับดูแลด้านการบินพลเรือนจะพยายามให้นโยบายไปแล้วว่า ตุ๊กตาคือสัมภาระมิใช่คน เจ้าหน้าที่สายการบินจะต้องดูแลด้านความปลอดภัยเสมือนการนำสัมภาระอื่นๆ ขึ้นเครื่องบิน    ด้านตำรวจก็เกรงว่ามิจฉาชีพจะถือโอกาสซ่อนยาเสพติดเอาไว้ในตุ๊กตาแล้วอุ้มขึ้นเครื่องบินง่ายๆ จึงต้องตรวจตราอย่างถี่ถ้วนเคร่งครัดเป็นพิเศษ

แม้จะได้รับการตักเตือนจากหน่วยงานความมั่นคงและปลอดภัยแล้ว แต่ผู้บริหารสายการบินบางสายพยายามจะหาช่องทำรายได้กับตุ๊กตาลูกเทพนี้อย่างถึงที่สุด เช่น บอกว่าผู้โดยสารสามารถซื้อที่นั่งวางสัมภาระข้างๆ ตนได้ตามราคาที่สนามบินกำหนด เช่น ถ้าต้องการวางกีต้าร์ซึ่งมีขนาดใหญ่ จะต้องซื้อที่นั่งซึ่งราคาอาจจะถูกกว่าราคาของคน

นอกจากธุรกิจต่างๆ จะขานรับกันอย่างเกรียวกราวแล้ว พระสงฆ์จอมขมังเวทย์ทั้งหลายที่ใจกล้าหน้าด้าน เห็นแก่เงินค่าปลุกเสกตุ๊กตาให้เป็นลูกเทพก็กระโดดเข้าร่วมขบวนการเปิดบริการเสกสวดแหกตาตุ๊กตาและแหกตาเจ้าของตุ๊กตากันอย่างคึกคัก โดยมิได้ตักเตือนหรือให้สติแก่เจ้าของลูกเทพแต่อย่างใด

นับเป็นกระแสแห่งโลภะและโมหะไหลมาบรรจบกันอย่างลงตัว ก่อให้เกิดเมฆหมอกแห่งอวิชชาปกคลุมสังคมโดยทั่ว ก่อให้เกิดความหนาวเหน็บอย่างน่าสะพึงกลัว

ท่ามกลางสังคมที่ประชาชนเสพข่าวด้วยความตื่นข่าวและตื่นตูม   สื่อมุ่งสื่อข่าวดิบๆ โดยไม่ต้องกลั่นกรอง โดยการตั้งสมมติฐานว่า ผู้เสพข่าวต้องมีวิจารณญาณด้วยตนเองตามแนวความคิดแห่งการค้าเสรี คือมีเสรีที่จะเสนอสินค้าทุกอย่างแต่ใครจะซื้ออะไรก็เลือกเอง

ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ นักสื่อสารมวล

ชน นักวิเคราะห์ นักวิจารณ์ ครูบาอาจารย์ ภิกษุสงฆ์ นักข่าวอิสระในโซเชียลมีเดีย ต่างทำตนเป็นกัลยาณมิตรของสังคมด้วยการให้สติ สะกิดเตือน บอกกล่าวให้เกิดการตื่นรู้ด้วยวิธีการต่างๆ ผ่านการวิเคราะห์ การสนทนา การเสนอหลักการแห่งการพึ่งตนเอง เพื่อทำให้กระแสตื่นข่าวและตื่นตูมไหลเชี่ยวกรากได้ชลอลงบ้าง

กระแสตื่นรู้ทำให้คนที่ยังงงกับเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นนี้ได้มีความหวัง มีเพื่อน มีกลุ่มที่บอกว่า ควรจะไปทางไหน จะทำอย่างไร เมื่ออยู่มาวันหนึ่งเห็นคนใกล้ตัว นั่งคุยกับตุ๊กตาตัวโปรด นั่งป้อนข้าว พาไปดูหนังฟังเพลง พาไปเรียนพิเศษ พาไปเรียนเปียนโน หรืออยู่มาวันหนึ่งคนขับแท็กซี่ต้องชลอความเร็วลงด้วยเหตุผลจากผู้โดยสารอันเป็นเจ้าของตุ๊กตาว่า รถวิ่งเร็วทำให้ตุ๊กตาเวียนหัว หรือคลื่นเหียนอาเจียนจนถึงเมารถ

หรือผู้บริการผู้โดยสารบนเครื่องบินต้องรับคำขอว่า ขอน้ำส้มคั้นให้ลูกเทพที่หนึ่ง

กระบวนการตื่นรู้ที่ไม่กระโดดตามกระแสโลภะและโมหะนี้ จะเป็นเพื่อนในฝั่งของคนที่ยืนอยู่ในสังคมนี้อย่างมีสติได้อย่างอบอุ่นโดยไม่ต้องเสียสติตามกระแสคนเสียสติไปด้วย

หากวิเคราะห์ตามกระแสข่าว สาเหตุหลักของปรากฏการณ์ลูกเทพมีสองอย่างหลักๆ คือ

  1. มีไว้แก้เหงา เนื่องจากคนในสังคมมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นับวันจะหาเพื่อนคุยที่สนทนาแบบเผชิญหน้าได้น้อยลงทุกที เพราะต่างคนต่างมีเพื่อนไกลคุยผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนเป็นส่วนใหญ่ มากกว่าที่จะให้ความสนใจคุยกันแบบสบตากับคนใกล้ตัว  ภาวะแห่งความเหงาก็เกิดขึ้นและขยายตัวไปอย่างรวดเร็วตามสังคมเมืองที่มีความเป็นปัจเจกมากขึ้น
  2. ความโลภ คนเป็นจำนวนไม่น้อย แม้รวยแล้วอยากรวยยิ่งๆ ขึ้นไป แต่อยากรวยจากการทำงานเบาๆ น้อยๆ  เมื่อสิ่งนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ในวิถีธรรมดาก็หันเข้าหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงอิทธิฤทธิ์ที่สามารถจะดลบันดาลให้ร่ำรวยอย่างฉับพลัน

ข่าวลือก็กล่าวว่า คนที่นำตุ๊กตาไปลงยันต์และเปิดตามาแล้วจะให้โชคให้ลาภดี เช่น การทำมาค้าขายดี หรือเร็วกว่านั้นก็ให้หวยแม่น ปล่อยข่าวกันว่า ถ้าบูชาดีๆ ให้ข้าวให้น้ำอิ่มหนำสำราญ เลขเด็ดจะผุดขึ้นมาตามฝ่ามือฝ่าเท้าของลูกเทพเลย    ความจริงเลขเหล่านั้นน่าจะเป็นรหัสสินค้าหรือผลิตภัณฑ์มากกว่า

ประเด็นที่จะต้องหารือกันบ้างก็คือ ต่อไปนี้เราจะอยู่กับผู้ที่มีความเห็นต่างชนิดวิจารณญาณไม่ค่อยจะเต็มนักเหล่านี้ได้อย่างไร มิใช่ประเด็นที่ว่า จะให้ลาภได้หรือไม่ หรือให้หวยแม่นไหม

ก่อนอื่นต้องตั้งจิตเมตตาและกรุณาต่อเพื่อนๆ เหล่านี้ของเราว่า ท่านเหล่านั้นเป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกับเรา รักสุข เกลียดทุกข์เหมือนกับเรา จึงไม่ควรเกลียดชังในการกระทำของเขา

ต้องตั้งเมตตาวจีกรรมกับพวกเขา โดยไม่พูดจาส่อเสียดแสดงอาการดูหมิ่นให้เขารู้สึกหวาดกลัวหรือไม่รู้สึกปลอดภัยที่จะอยู่ในสังคม มนุษย์ที่เห็นต่าง แต่ต้องเมตตาให้สติเขาด้วยความปรารถนาดีจริง

ทีท่าที่แสดงออกทางกายต้องประกอบด้วยเมตตา ไม่ส่งภาษากายที่เขารับได้ว่ารังเกียจเขา  ไม่จำเป็นต้องขาดสติเหมือนเขา แต่พร้อมจะเติมสติให้เต็มเมื่อเห็นว่า เมื่อใดเขาขาดสติอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุทำตนเองและผู้อื่นให้เดือดร้อน

ในฐานะพุทธบริษัทควรยึดหลักของอุบาสกและอุบาสิกาไว้ให้มั่นคือ

  1. มีศรัทธา เชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม เชื่อว่าทุกคนมีกรรมเป็นของตน ใครจะถ่ายเทให้ใครมิได้
  2. มีศีล เป็นอุบาสกและอุบาสิกาก็สมาทานศีลห้าและศีลแปดเป็นนิตย์ เพื่อความสงบร่มเย็นของชีวิต
  3. ไม่ถือมงคลตื่นข่าว เรื่องราวของลูกเทพนี่แหละเป็นตัวอย่างสำคัญของมงคลตื่นข่าว อุบาสกอุบาสิกาต้องตั้งมั่นในพระรัตนตรัยไม่หวั่นไหวในข่าวแห่งที่พึ่งอื่นๆ นอกเหนือจากพระรัตนตรัย เชื่อมั่นการกระทำของตน พึ่งตน ไม่พึ่งการดลบันดาล
  4.   ไม่แสวงบุญนอกพุทธศาสนา เช่น การบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนคิดว่าจะดลบันดาลให้ร่ำรวยหรือโชคดี เช่น เข้าใจผิดว่าการเลี้ยงลูกเทพเป็นการทำบุญชนิดหนึ่ง
  5. บำเพ็ญแต่ในพระพุทธศาสนา เช่น ให้ทาน สมาทานศีล เจริญภาวนา อ่อนน้อมถ่อนตน ขวนขวายช่วยเหลือสังคม การแนะนำด้วยธรรม การฟังธรรม การแบ่งส่วนบุญ การอนุโมทนาบุญ การทำความเห็นให้ตรง

แม้ปรากฏการณ์ลูกเทพจะเขย่าศรัทธาของพุทธบริษัทให้หวั่นไหว ท้าทายและเขย่าวงการคณะสงฆ์ให้สั่นคลอนจนพระภิกษุสงฆ์บางรูปที่เห็นแก่ลาภสักการะคล้อยตามอย่างขาดโยนิโสมนสิการ เพราะความหอมหวานแห่งลาภสักการะที่ได้มาโดยง่ายดายก็ตาม    ตราบใดที่พุทธบริษัททั้งภิกษุ สามเณร อุบาสกและอุบาสิกายังคงยืนหยัดบนหลักการแห่งความเป็นอุบาสก อุบาสิกา พระสงฆ์ทำหน้าที่ชี้นำทางที่ถูกต้อง สถาบันของพุทธบริษัทจะยังคงดำรงอยู่ตราบนั้น

แม้สังคมจะตื่นข่าวและตื่นตูม เมื่อพุทธบริษัทโดยเฉพาะพระสงฆ์ยังคงหลักแห่งการตื่นรู้เอาไว้ เมฆหมอกแห่งอวิชชาจะตั้งอยู่เพียงชั่วขณะ  เมื่อแสงแห่งปัญญาสว่างจ้าเต็มที่ เมฆหมอกแห่งอวิชชาจะค่อยๆ ผ่อนคลายเบาบางลงและจางหายไปได้ในที่สุดด้วยแสงแห่งพระธรรม

วัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า

วันที่ 31มกราคม 2559 เวลา 9.41 น.

ดร.พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณ

เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา, วัดพุทธธรรมและวัดลอยฟ้า

www.buddhapanya.org & www.skytemple.org

Leave a Reply